แต่ก่อนแต่ไรมาการพิจารณาพระเครื่องเป็นเรื่องของภูมิปัญญา ประสบการณ์ความรู้ของแต่ละบุคคล พระองค์เดียวกันให้ผู้รู้ หรือที่เรียกกันว่าเซียนหลายๆ คนพิจารณา ก็มีความเห็นแตกต่างกันไป
แต่โลกทุกวันนี้มีความเจริญทางเทคโนโลยีมาก ดังจะเห็นว่ามีวิทยาการใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่นเครื่องตรวจมวลสาร น้ำยาเคมี เป็นต้น ที่สามารถนำมาตรวจหาอายุของมวลสาร เป็นเครื่องมือพิสูจน์ทราบอีกทางหนึ่ง ซึ่งคนที่เชื่อถือในหลักการทางวิทยาศาสตร์ก็ให้การยอมรับ โดยเฉพาะผู้นิยมพระเครื่องเมืองไทยที่เป็นชาวต่างประเทศ แต่ความเชื่อก็เป็นเรื่องของปัจเจก แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล
ข้อเขียนนี้ก็เพียงนำเสนอในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้อ่านจะได้มีความรู้เพิ่มเติมเท่านั้น และขออนุญาตท่านอ.ปรีชา เอี่ยมธรรม ที่จะนำบางส่วนจากหนังสือ "อาณาจักรพระเครื่อง ฉบับพระเบญจภาคี" ของท่านมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้แก่ผู้สนใจ
ท่านอ.ปรีชา เอี่ยมธรรมได้นำพระเครื่องจำนวนหนึ่งไปตรวจหาอายุความเก่าด้วยวิธีคาร์บอน 14 หรือที่เรียกกันว่า C14 ซึ่งมีพระสมเด็จวัดระฆังฯ ไปตรวจครั้งนั้นด้วย 2 องค์ ขอตัดบางส่วนจากหนังสือมาดังนี้
" การพิจารณาพิสูจน์ว่า พระสมเด็จวัดระฆัง เก่า ใหม่ เก๊ แท้ เป็นอย่างไรนั้น ต้องอาศัยการพิสูจน์ทราบทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวช่วยสุดท้ายที่สังคมโลกเขาเชื่อถือ และรับรองอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือการพิสูจน์ทราบอายุความเก่าด้วยวิธีคาร์บอน 14 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า C14 และเป็นที่เชื่อถืออย่างเป็นทางการในวงการพระเครื่องจากการพิสูจน์ทราบ พระสมเด็จวัดระฆังองค์ยี่สิบล้าน และพระขุนแผนเคลือบกรุใหม่ และผมได้นำเอาพระสมเด็จวัดระฆัง ๒ องค์ ส่งไปพิสูจน์ทราบตามขบวนการ C14 จากสถาบันนิวเคลียร์แห่งชาติ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ตามขั้นตอน และผลออกมาดังนี้ พระสมเด็จวัดระฆัง ๒ องค์ มีอายุ ๑๘๐ ปี บวกลบ ๙ ปี "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น