การพิจารณาธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จวัดระฆังฯ
(
ตอนที่ ๑ )
พระสมเด็จวัดระฆังฯ
ที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สร้างขึ้นนั้น จัดเป็นพระเนื้อผง
ซึ่งนับถึงปัจจุบันนี้พระมีอายุระหว่าง ๑๖๐-๒๐๐ ปีแล้ว โดยที่จากการศึกษาของโบราณจารย์ และบันทึกที่พบจากหลายที่
พระสมเด็จวัดระฆังฯ มีทั้งที่เจ้าประคุณสมเด็จท่านแจกให้ด้วยตัวเอง
และบรรจุไว้ในที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์ท่านเช่นในองค์พระใหญ่
พระประธานตามวัดที่ท่านสร้างไว้หลายองค์ อีกทั้งเจดีย์ และพระปรางค์ในวัดต่างๆ
ที่เกี่ยวเนื่องกับท่านอีกหลายแห่ง
ภาพพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ต่างๆ
จากภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ
ภาพพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์ต่างๆ
จากภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ
ในที่นี้จะขอกล่าวถึงวิธีการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯ
โดยสังเขป เพราะผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่ทราบมาก่อน การสร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯ
นั้นกล่าวได้โดยย่อๆ ว่า เป็นการผสมมวลสารหลายๆ ชนิด
โดยมีปูนเปลือกหอยเป็นมวลสารหลัก ตามที่บรมครูหลายท่านได้ศึกษาและกล่าวไว้ว่าวัสดุที่เจ้าประคุณสมเด็จท่านนำมาใช้ทำมวลสารมีมากกว่า
๒๐ ชนิด มีทั้งวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งจะเป็นพืชเกือบทั้งสิ้น ผงกฤติยาคมที่ใช้แท่งดินสอที่ปั้นจากดินสอพอง
นำมาเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานแล้วลบเอาผงมาเรียกว่า ผงวิเศษ หรือผงสมเด็จ
และวัสดุที่ย่อยสลายยาก หรือไม่ย่อยสลาย เช่นปูนเปลือกหอย ผงดิน อัญมณีต่างๆ พระพิมพ์ที่แตกหัก
เศษผ้า เป็นต้น
นำวัสดุที่กล่าวมาข้างต้นนำมาบดให้ละเอียดแล้วตำรวมกันในครกโดยมีวัสดุที่ใช้เป็นตัวประสารเนื้อเช่น
น้ำมันตังอิ๊ว น้ำอ้อยเคี่ยว ยางมะตูม เนื้อกล้วย ข้าวเหนียวเปียก
เยื่อกระดาษที่ได้จาก กระดาษฟาง กระดาษสา ตำราหนังสือที่ชำรุดเอามาแช่จนเนื้อกระดาษเปื่อยแล้วนำเยื่อมาใช้
เมื่อคลุกเคล้าเนื้อจนผสมเข้ากันเป็นอย่างดีได้ที่แล้วก็ ปั้นเป็นลูกกลมๆ
แล้วจึงนำไปกดลงบนแม่พิมพ์ โดยใช้ไม้กระดานตี และกดแรงๆ ให้เนื้อพระเข้าเต็มพิมพ์ติดชัดเจน
เมื่อนำพระที่กดพิมพ์เรียบร้อยแล้วออกจากแม่พิมพ์
ขอบโดยรอบจะมีเนื้อส่วนเกินเป็นวงกลมแผ่ออกโดยรอบ
จึงต้องนำมาตัดเนื้อส่วนเกินออกโดยตัดตามแนวเส้นบังคับพิมพ์ทั้ง ๔ ด้าน
จึงเสร็จเป็นพระสมเด็จวัดระฆังฯ ทรงสี่เหลี่ยมอย่างที่เราเห็นกันอยู่
เมื่อเข้าใจหลักการสร้างโดยสังเขปแล้ว
ก็จะวกเข้าเรื่องหลักการพิจารณาพระสมเด็จวัดระฆังฯ ซึ่งองค์ประกอบที่ต้องนำมาพิจารณาเมื่อมองจากวิธีการสร้างพระก็จะมี
๓ ส่วนคือ
๑. เนื้อ
มวลสาร
๒. พิมพ์
๓. ธรรมชาติความเก่า
แต่ในบทความนี้จะขอกล่าวเพียงองค์ประกอบเดียวคือ ข้อ ๓
ธรรมชาติความเก่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้
การทำพระเทียมสามารถทำเนื้อ และพิมพ์ได้ใกล้เคียงพระแท้มากขึ้น
แต่ธรรมชาติความเก่า ซึ่งเกิดขึ้นเองตามอายุของพระนั้น ไม่สามารถทำ.ให้เหมือนของแท้ได้ เพราะมวลสารต่างๆ
ที่ใช้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังฯ นั้น ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แล้วทิ้งร่องรอยต่างๆ
ไว้บนองค์พระ
จึงเป็นองค์ประกอบที่สามารถใช้ตัดสินคัดแยกพระแท้พระเทียมได้เป็นอย่างดี
ถ้าหากมีความเข้าใจกระบวนการเกิดของร่องรอยอันเป็นธรรมชาติ
ซึ่งเกิดขึ้นอย่างมีเงื่อนไข คือระยะเวลาอายุของพระ
( ยังมีต่อ.... )
หากเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ช่วยกด ติดตาม เพื่อรับข่าวสาร
ขอขอบคุณ และขออนุญาตเจ้าของภาพที่นำมาลงในบทความนี้ เพื่อนำมาใช้ประกอบเรื่องเผยแพร่เป็นวิทยาทานเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น